วัตสัน ประเทศไทย ชูกลยุทธ์ O+O สร้างประสบการณ์การชอปปิ้งไร้รอยต่อ
คุณพสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการและ คุณนวลพรรณ ชัยนาม (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ วัตสัน ประเทศไทย
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 29 มีนาคม 2566 – วัตสัน ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การชอปปิ้งออฟไลน์และออนไลน์ (O+O) แบบไร้รอยต่อในปี 2566 ด้วยการยกระดับเครือข่ายที่ครอบคลุม สานต่อความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับพาร์ทเนอร์ รวมถึงมอบสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้นให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะซื้อของจากทางหน้าร้าน หรือทางออนไลน์
วัตสัน ใช้กลยุทธ์ O+O ในทุกตลาดทั่วโลก รวมถึงวัตสัน ประเทศไทย ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ 14 ล้าน Ecosystem บนแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางใดก็ได้ ทุกที่ และทุกเวลาได้อย่างไร้รอยต่อ
โดยในเดือนเมษายน วัตสันจะเปิดตัว “โปรโมเชื่อม” โปรโมชั่นที่ซึ่งออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อการชอปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์สำหรับสมาชิกวัตสัน คลับ โดยหากสมาชิกวัตสัน คลับซื้อสินค้าในช่องทางออนไลน์ จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 5% เมื่อชอปสินค้าที่หน้าร้านวัตสันในเดือนเดียวกัน และเช่นเดียวกัน หากสมาชิกซื้อสินค้าที่หน้าร้านก่อน ก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 5% เมื่อซื้อสินค้าทางออนไลน์ในเดือนเดียวกัน
คุณพสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “เราตระหนักดีว่า พฤติกรรมของลูกค้าได้เปลี่ยนไปแล้ว และการปรับเปลี่ยนวิธีที่เราให้บริการลูกค้าทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์คือกุญแจสู่ความสำเร็จของเรา โดยกลยุทธ์แพลตฟอร์ม O+O ถือเป็นรูปแบบธุรกิจและกลยุทธ์หลักของเรา ซึ่งในปีนี้เรามีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถชอปกับเราได้ในทุกสถานการณ์ รวมถึงลูกค้าต้องสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ในราคาที่ดีที่สุด ในทุกๆ ครั้งของการชอปปิ้ง และแม้ว่าการกลยุทธ์ O+Oหมายถึงเรามีสองช่องทาง แต่เราเห็นว่าลูกค้าคนเดียวกันของเรา จะซื้อสินค้าทั้งจากทางออนไลน์และหน้าร้านนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการ เวลา หรือสถานที่ ในขณะนั้น ซึ่งหมายความว่าเราต้องมอบสิทธิประโยชน์ที่เท่ากันให้กับลูกค้าแต่ละราย และ “โปรโมเชื่อม” จะเป็นการมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าทั้งสองช่องทางของเราได้อย่างทั่วถึง”
คุณพสิษฐ์ เสริมว่า “จากข้อมูลของเรา พบว่าการมีช่องทางออนไลน์ไม่ได้ส่งผลให้ยอดขายหน้าร้านลดลง ในทางกลับกัน ลูกค้าที่ชอปปิ้งทั้งทางออนไลน์และหน้าร้านมีการใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าที่ซื้อหน้าร้านอย่างเดียว ถึง 3เท่า”
การพัฒนากลยุทธ์แพลตฟอร์ม O+O ของวัตสันได้รับการผลักดันจากการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจทั่วประเทศ โดยในปี 2566 วัตสันวางแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 50 สาขา รวมถึงตั้งคลังสินค้าแห่งใหม่ที่วังน้อย จังหวัดอยุธยา ซึ่งจะทำหน้าที่กระจายสินค้าให้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ
วัตสันยังคงพัฒนาบทบาทในฐานะผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทยต่อไป เพื่อตอบรับความต้องการของสมาชิกและลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยผลิตภัณฑ์ของวัตสันเอง ตลอดจนการสานต่อความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นที่น่าสนใจให้กับลูกค้า และสนับสนุนแคมเปญผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมความยั่งยืน โดยในเดือนมีนาคม วัตสันได้เปิดตัว Dermaction Plus Solar Barrier ผลิตภัณฑ์เวชสำอางกันแดดซึ่งเป็นแบรนด์ของวัตสันเอง เพื่อช่วยให้คนไทยปกป้องผิวจากแสงแดดและคลื่นความร้อนได้อย่างครอบคลุม และปีนี้วัตสันจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายซึ่งเป็นแบรนด์ของวัตสันเอง รวมถึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเวชสำอางเพิ่มเติม วัตสันจะยังคงสานต่อความร่วมมือกับคู่ค้าผ่านแคมเปญส่งเสริมการขาย และแคมเปญส่งเสริมด้านความยั่งยืนตลอดทั้งปี
สมาชิกวัตสัน คลับ กว่า 8 ล้านคน ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากแพลตฟอร์มวัตสัน O+O แล้ว โดยตอนนี้สมาชิกสามารถสัมผัสกับประสบการณ์ชอปปิ้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ที่ราบรื่น ในราคาที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และสามารถสะสม หรือใช้คะแนนได้เหมือนกันทั้งสองช่องทาง นอกจากนี้ วัตสันยังสามารถเสนอตัวเลือกสินค้าที่โดนใจให้แก่สมาชิกจากความชอบและการซื้อที่ผ่านมา อีกทั้งสมาชิกยังมีสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรม และร่วมเวิร์กชอปสุดพิเศษที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอีกด้วย
วัตสันสนับสนุนความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับโลก ลูกค้า ผู้คน และชุมชน โดยจากการสำรวจในปี 2565 พบว่าคนไทยกว่า 60% ให้ความสำคัญกับสินค้าที่เป็นมิตรกับโลก และวัตสันได้เล็งเห็นความสำคัญนี้ โดยได้มีการปรับใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิล (PCR plasticหรือ Post-Consumer Recycled material) และใช้กระดาษที่ได้รับการรับรองจาก FSC* ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน รวมถึงเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้า โดยปัจจุบันลูกค้ามีตัวเลือกมากถึง 1,800รายการ รวมทั้งออกผลิตภัณฑ์แบบรีฟิล และลดการใช้บรรจุภัณฑ์ได้
คุณพสิษฐ์ กล่าวเสริมอีกว่า “วัตสันยังคงให้การสนับสนุนเพื่อนพนักงานและคนในชุมชนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เราให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม ความหลากหลายของผู้คนในองค์กร และการมีส่วนร่วมในกลุ่มพนักงานของเรา ทำให้พนักงานมั่นใจได้ว่าทุกคนมีโอกาสในการเติบโต โดยไม่มีผลกระทบจากปัจจัยด้านภูมิลำเนา ความคิดเห็น หรือความเชื่อที่แตกต่าง นอกจากนี้เรายังให้การสนับสนุนสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ หรือ บ้านพักฉุกเฉินอย่างต่อเนื่องมาแล้วกว่า 20 ปีเพื่อส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศในสังคม รวมถึงการร่วมมือกับองค์กรระดับโลกเพื่อตอบแทนสังคม ยกตัวอย่างเช่นโครงการ Give a Smile ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างวัตสันและมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม (Operation Smile) เพื่อสนับสนุนการผ่าตัดให้กับเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้พันธมิตรคู่ค้าและผู้บริโภคทุกคนมั่นใจได้ว่าวัตสันยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่เสมอ ทั้งยังมุ่งมั่นตามวิสัยทัศน์ “Put a smile on customer’s faces today and tomorrow” เพื่อให้ลูกค้าและสังคมของเรามีความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้มในวันนี้และทุกๆ วัน”
###
*FSC: Forest Stewardship Council คือองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ทำหน้าที่สนับสนุนการจัดการป่าไม้อย่างรับผิดชอบ เครื่องหมาย FSC ช่วยการันตีว่าสินค้าที่ผลิตจากกระดาษและไม้นั้น ๆ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์หรือป่าที่มีการจัดการดูแลอย่างรับผิดชอบ
เกี่ยวกับวัตสัน
วัตสันเป็นผู้นำ O+O (Offline plus Online) ร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามมีสาขากว่า 8,000 สาขา และร้านขายยา กว่า 1,500 ร้านค้า ในเอเชีย และยุโรปทั้ง 15 ตลาด วัตสันสร้างมาตรฐานสูงสุดอย่างต่อเนื่องในตลาดด้านสุขภาพและความงามโดยให้คำแนะนำ คำปรึกษาเฉพาะและการดูแลส่วนบุคคล ตลอดจนการส่งต่อความรู้สึกแบบ – LOOK GOOD, DO GOOD, FEEL GREAT – หรือ “ดูดีได้ ทำดีด้วย รู้สึกดีไปด้วยกัน” เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและรอยยิ้มให้แก่ลูกค้าทุกคนได้ในทุกๆ วัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 วัตสันได้ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ ร้านยาอันดับหนึ่งของเอเชีย* ในยุโรป วัตสันยังเป็นร้านเพื่อสุขภาพและความงามชั้นนำในประเทศยูเครนอีกด้วย
*วัตสันครองตำแหน่ง “แบรนด์ร้านขายยาอันดับหนึ่งของเอเชีย” (Asia’s Top 1000 Brands) จากผลสำรวจประจำปี 2020ทางออนไลน์กับกลุ่มตัวอย่าง 8,000 คนใน 14 ตลาด ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เกี่ยวกับ วัตสัน ประเทศไทย
วัตสัน ร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2539 วัตสันนำเสนอประสบการณ์ชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อด้วยจำนวนสาขามากกว่า 650 สาขาทั่วประเทศ และวัตสัน ออนไลน์ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและครบครันให้แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม โดยวัตสันมีความมุ่งมั่นต่อเนื่องที่จะส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพ คุ้มค่า คุ้มราคา รวมไปถึงการให้บริการแก่ลูกค้าทุกคนด้วยความใส่ใจ และมีมาตรฐาน รวมไปถึงความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ LOOK GOOD, DO GOOD, FEEL GREAT การันตีได้จากการได้รับรางวัล “สุดยอดแบรนด์แห่งปี” (Superbrands) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 จาก Superbrands ประเทศไทย ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้สำหรับแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม