
ทพ.อรรถพร รองฯ สปสช.เยี่ยมชมโครงการฟันเทียม รากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติฯ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีใช้ระบบ Teleconsult เตรียมช่องปากผู้ป่วยตั้งแต่ในโรงพยาบาลชุมชนก่อนส่งต่อปลูกรากฟันเทียมที่ รพ.แม่ข่าย
สปสช.เยี่ยมชมโครงการฟันเทียม รากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติฯ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี
รองเลขาธิการ สปสช. เยี่ยมชมการดำเนินงานโครงการฟันเทียม รากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติฯ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เผยมีการใช้ระบบ Teleconsult เตรียมช่องปากผู้ป่วยตั้งแต่ในโรงพยาบาลชุมชนก่อนจะส่งมาปลูกรากฟันเทียมที่โรงพยาบาลแม่ข่าย พร้อมติดตามผลการรักษาผ่านระบบ Teledentistry ช่วยลดการเดินทางมาโรงพยาบาลแม่ข่ายจาก 8 ครั้ง เหลือ 3 ครั้ง ในกรณีที่ไม่ต้องปรึกษาแพทย์ แต่ถ้าต้องปรึกษาแพทย์ จะต้องมารับบริการถึง 10 ครั้ง
และระบบทันตกรรมทางไกลจะช่วยลดกระบวนการเดินทาง เพื่อลดความยุ่งยากและดึงดูดใจให้ผู้ป่วยสนใจที่จะมาเข้าร่วมโครงการ แก้ปัญหาผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาโรงพยาบาลศูนย์บ่อยครั้ง และยกระดับการให้บริการที่มีความทันสมัยใช้ เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการติดตามอาการในผู้ป่วยที่มีอาการคงที่ และยัง คำนึงถึงความปลอดภัยในการให้บริการโดย มีการจัดอบรมเพิ่มทักษะการให้บริการ ด้านทันตกรรมทางไกลและการดูแลผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังการใส่รากฟันเทียม เป็นการเพิ่มศักยภาพด้านทันตกรรม รากฟันเทียมและทันตกรรมทางไกล แก่โรงพยาบาล ลูกข่ายทั้งโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน ที่สนใจเข้าร่วมการฝึกอบรม ในจังหวัดอุบลราชธานี ได้เชิญชวนให้ ทำกิจกรรมดังกล่าวใน ทั้ง 5 จังหวัดในเขต 10
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อม ทพญ.วรางคนา เวชวิธี รก.ทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมอนามัย และนางมลุลี แสนใจ ผอ.สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี เดินทางลงพื้นที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมชมโครงการฟันเทียม รากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 และต้นแบบ Teledent @home /Teledent @client hospital/ Teledent@central prison ณ อาคาร 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ
โดยมี นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 10 นพ. ธีระพงษ์ แก้วภมร นพ.สสจ.อุบลราชธานี นพ. มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผอ.รพ.สรรพสิทธิประสงค์ และทพ.วุฒิชัย ตั้งสิริสุธีกุล ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ ต้อนรับและนำเสนอโครงการฟันเทีนมและรากฟันเทียมฯ
นพ. ธีระพงษ์ แก้วภมร นพ.สสจ.อุบลราชธานี กล่าวว่า
การดำเนินโครงการฟันเทียมรากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส มหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 จังหวัดอุบลราชธานี โดยในปีงบประมาณ 2566-2567 มีผู้ได้รับการใส่ ฟันเทียมรวม/ 2124 ราย จากเป้าหมายฟันเทียม2274 ราย คิดเป็นร้อยละ 93.40 ของ เป้าหมายฟันเทียม/ และมีผู้ได้รับการฝังรากเทียมรวม 124 ราย จากเป้าหมายรากฟันเทียม 154 ราย คิดเป็นร้อยละ 82.47 ของเป้าหมายรากฟันเทียม อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการในจังหวัดอุบลราชธานีได้อาศัยความร่วมมือของทันตบุคลากรในการคัดกรองผู้ป่วย เข้ารับบริการฟันเทียมและรากฟันเทียม โดยหน่วยบริการในจังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ รพ. 51 พรรษา มหาวชิราลงกรณ รพ.วารินชำราบ รพ.สมเด็จพระยุพราชเดชอุดม รพ.โรงม่วงสามสิบ และ ศูนย์อนามัยที่ 10 โดยมีการใช้ระบบทันตกรรมทางไกล มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มความเข้าถึง บริการทางทันตกรรม ของประชาชน
ทพ.วุฒิชัย ตั้งสิริสุธีกุล ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานว่า โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เริ่มตั้งแต่สำนักงานเขตสุขภาพที่ 10 ที่ช่วยงบประมาณดำเนินโครงการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักทันตสาธารณสุข สถาบันทันตกรรม ศูนย์อนามัย ที่ 10 Service plan สาขาสุขภาพช่องปาก และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลทั้ง 5 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 10 และหัวหน้า กลุ่มงานทันตกรรม ของโรงพยาบาลทั้ง 5 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 10 ที่ช่วยเหลือ สร้างระบบ สนับสนุนด้านวิชาการการบริหารจัดการ และ จัดสรร วัสดุอุปกรณ์ในการทำงาน ฟันเทียมและรากฟันเทียม ส่วนโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ร่วมกับโรงพยาบาลในเครือข่ายทำหน้าที่ตั้งแต่การคัดกรอง การจัดบริการ และการติดตามผลหลังใส่ฟันเทียมหรือรากฟันเทียม
ทั้งนี้ ขั้นตอนการดำเนินงานจะเริ่มตั้งแต่การคัดกรอง โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลในเครือข่ายในการคัดกรองและส่งรายงานผ่าน Google form นอกจากนี้ ทีมของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ยังออกคัดกรองเชิงรุกร่วมกับลูกข่ายตามอำเภอต่างๆ ทั้งการออกหน่วยพอสว ร่วมกับทีมสำนักงานทันตสาธารณสุข การออกหน่วยกับสหวิชาชีพ ตามโครงการ พาแพทย์สู่ชุมชน และพยายามสร้างระบบการทำงานที่มีความเชื่อมโยงตั้งแต่ปฐมภูมิทุติยภูมิและตติยภูมิ ตามคำแนะนำ ของนายแพทย์มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผอ.รพ. และในพื้นที่เรือนจำ ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ภายใต้การ สนับสนุนของผบ.เรือนจำกลางอุบลราชธานีและทีมงาน
ทพ.วุฒิชัย กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ยังออกคัดกรองเชิงรุกร่วมกับลูกข่ายตามอำเภอต่างๆ ตามโครงการ พาแพทย์สู่ชุมชน และพยายามสร้างระบบการทำงานที่มีความเชื่อมโยงตั้งแต่ปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ จะเป็นการเตรียมช่องปากก่อนหัตถการ โดยผู้ป่วยจะได้รับการเตรียมช่องปากที่โรงพยาบาลชุมชน โดยในกระบวนนี้จะมีการ Teleconsult แก่ทันตแพทย์ที่ยังขาดทักษะและประสบการณ์ในโรงพยาบาลชุมชน หรือในกรณีที่ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวหรือมีความเสี่ยงก็จะมีการ consult กับอายุรแพทย์เพื่อประเมินและจัดการ เตรียมผู้ป่วยให้พร้อมและปลอดภัยก่อนทำหัตถการ รากฟันเทียม
อย่างไรก็ตาม หลังจากเตรียมช่องปากแล้ว โรงพยาบาลชุมชนที่ทันตแพทย์ขาดทักษะและประสบการณ์ หรือไม่มีเครื่องมือ จะส่งตัวผู้รับบริการมาฝังรากฟันที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมทั้งเป็นการฝึกทักษะการทำหัตถการ และดูแลอย่างใกล้ชิดแบบรายบุคคล แก่ทันตแพทย์ที่ยังขาดประสบการณ์ไปด้วยในตัว และเมื่อฝังรากฟันเทียมแล้ว จะมีการติดตามผลการรักษาผ่านระบบ Teledentistry ซึ่งทีมงานในพื้นที่ตั้งแต่ อสม.ไปจนถึงบุคลากรของโรงพยาบาลชุมชนจะได้ฝึกใช้ งานระบบทันตกรรมทางไกล ในวันที่ผู้ป่วยมารับการผ่าตัดนั่นเอง
ทพ.วุฒิชัย กล่าวอีกว่า ข้อดีของการจัดระบบในลักษณะนี้ ช่วยลดจำนวนครั้งการเดินทางมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแม่ข่ายจาก 8 ครั้ง เหลือ 2 ถึง 3 ครั้ง และถ้าต้องปรึกษาแพทย์ร่วมด้วยก็จะลดจาก 10 ครั้งเหลือ 2ถึง3 ครั้ง ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดค่าเสียโอกาสของลูกหลานที่ต้องพาผู้สูงวัยมารับบริการที่โรงพยาบาล แม่ข่าย และ ดูแลให้ครอบคลุมถึง กลุ่มเปราะบาง อย่างเช่น ผู้ต้องขังในเรือนจำมีโอกาสการเข้าถึงบริการมากขึ้น ยกระดับการให้บริการผู้ป่วยต้องขังให้เข้าถึงการให้บริการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติ และยังเป็นการเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านทันตกรรมในหน่วยบริการลูกข่ายด้วย
ขณะที่ ทพ.อรรถพร กล่าวว่า โครงการฟันเทียม รากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นการสืบสานพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการแก้ปัญหาให้ผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปากให้ได้รับฟันเทียมเพื่อให้สามารถรับประทานอาหารได้ดีขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่แข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยโครงการนี้มีหลายหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการ และ สปสช. ก็เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ โดยได้เพิ่มสิทธิประโยชน์รากฟันเทียมแก่ผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปาก หรือ ผู้ที่มีปัญหาใส่ฟันเทียมแล้วหลวมโยกและจำเป็นต้องใส่รากฟันเทียมเพื่อยึดฟันเทียมให้แน่นขึ้น
ด้าน ทพญ.วรางคนา เวชวิธี รักษาการทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ทันตสาธารณสุข ) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ วันที่ 1 ต.ค. 2565 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2567 โดยมีเป้าหมายผู้รับบริการ 72,000 ราย ในส่วนของผู้มีสิทธิบัตรทองสามารถเข้ารับการใส่ฟันเทียมและรากฟันเทียมที่โรงพยาบาลรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่จำเป็นต้องเป็นหน่วยบริการประจำตามสิทธิการรักษาของแต่ละคน แต่ขอให้เป็นหน่วยบริการใกล้บ้านเพื่อความสะดวกรักษาต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ประกันตนรับบริการได้ที่โรงพยาบาลเอกชนและคลินิกทันตกรรมเอกชนในระบบประกันสังคม และผู้มีสิทธิข้าราชการเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง.
จากนั้นคณะได้เยี่ยมชมสถานบริการ ฟันเทียม รากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติฯ และต้นแบบ Teledent @home /Teledent client hospital ณ กลุ่มงานทันตกรรมชั้น4 อาคาร 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และการทำรากฟันเทียมให้กับ
นางอัจราภรณ์ สิงห์แจ่ม อายุ 48 ปี ชาวอ.วารินทร์ และได้รับการรักษารากฟันเทียมในโครงการฯ ซึ่งใช้สิทธิบัตรทองที่ถูกส่งต่อจากรพ.วารินทร์ มารักษาทำรากฟันเทียมที่รพ.สรรพสิทธิ์ เล่าว่า ก่อนที่จะได้ทำรากฟันเทียม ตนรักษาที่รพ.วารินทร์มาก่อน โดยช่วงนั้นฟันเริ่มหักหมดเกือบทั้งปาก เหลืออยู่ประมาณ 3ซีก คุณหมอบอกว่าอยากทำรากฟันเทียมมั่ย แต่ต้องถอนฟันที่เหลือ เพราะตนเป็นโรคเหงือกฟันมีปัญหาตลอด ซึ่งคุณหมอที่รพ.วารินทร์ บอกว่า ถ้าทำจะส่งไปให้ที่รพ.สรรพสิทธิ์ดูแลต่อ ตนกลัวมาก ตัดสินใจเป็นเดือนจนทำ แล้วพบว่าดีมากเลยทำให้ตนใช้ชีวิตดีขึ้น กินอาหารดีขึ้นจากเดิมใส่ฟันปลอมแล้วกินอาหารมันจะหลวมๆหลุดตลอด ตนอยากบอกว่าเพื่อนๆที่ทำว่าไม่ต้องกลัวทำแล้วดีจริงๆ