ทพ.อรรถพร รองเลขาฯสปสช.ลงพื้นที่ เยี่ยมชมนวัตกรรมคลินิกเวชกรรมนายแพทย์รัฐกร(แพทย์แผนปัจจุบัน)และ เพชปุระคลินิกการแพทย์แผนไทย จ.เพชรบูรณ์ เป็น “หน่วยบริการสาธารณสุขวิถีใหม่” ชี้ลดความแออัดในรพ. และประชาชนสะดวกรวดเร็ว เข้าถึงง่ายใกล้บ้าน
รองเลขาธิการฯ สปสช.ลงเยี่ยมหน่วยนวัตกรรม จ.เพชรบูรณ์ ติดตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว พบผู้มีสิทธิบัตรทองใช้บริการจำนวนมาก ย้ำประชาชนมีความพึงพอใจ หลังพบคลินิกเวชกรรมและคลินิกแพทย์แผนไทยให้บริการเป็นหน่วยนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ พบ 2 เดือนดูแลประชาชนในพื้นที่ได้มาก ลดภาระงานในรพ. และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสาธารณสุข
เมื่อวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2567 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วยผู้บริหารสปสช.เขต2 พิษณุโลก ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงาน“หน่วยบริการสาธารณสุขวิถีใหม่” ตามนโยบาย “ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” โดยมีนายแพทย์รัฐกร เพิ่มสุวรรณ ผู้บริหารคลินิกเวชกรรมนายแพทย์รัฐกร และ แพทย์แผนไทย(พท.) ขกฤตยชญ์ แจ่มศรี ผู้บริหารและเจ้าของเพชปุระคลินิกการแพทย์แผนไทย โดยมี พท.สัญญา ปัญญา แพทย์แผนไทย สรุปภาพรวมของการดำเนินการในคลินิก
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า หน่วยบริการสาธารณสุขวิถีใหม่” ตามนโยบาย “ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ระยะที่ 2 ในจังหวัดเพชรบูรณ์ จากที่ลงพื้นที่มีความประทับใจหน่วยบริการภาคเอกชนในที่เข้ามาเป็นหน่วยบริการเพื่อยกระดับ 30 บาทฯ แม้เป็นจังหวัดเล็กๆ มีประชากรทั้งหมดประมาณ 887,046 คน แต่ก็มีหน่วยบริการที่สนใจเข้าร่วมจำนวนมาก ซึ่งประโยชน์ด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นจะตกกับประชาชนในพื้นที่ เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็นและมีความสะดวกมากขึ้น สำหรับหน่วยบริการ ที่ลังเลเข้าร่วมโครงการฯ นั้น เพราะมีความกังวลในส่วนของการจ่ายชดเชยค่าบริการ สปสช. ยืนยันแล้วว่าสามารถจ่ายได้ใน 3 วัน
“โครงการฯนี้ ยังเป็นโอกาสในการแสดงบทบาทวิชาชีพในการรักษาผู้ป่วยให้มีอาการดีขึ้นและมีความภาคภูมิใจนอกจากรายได้ที่ได้เสริมเพิ่มหลังเข้าร่วมโครงการ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่สปสช. เขต 2 มี 5 จังหวัดที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย จ.พิษณุโลก จ. อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.ตาก และจ.เพชรบูรณ์ พบว่า ทุกที่มีหน่วยบริการสาธารณสุขวิถีใหม่มีความพร้อมแล้ว แต่สิ่งที่อยากเน้นย้ำคือขอหน่วยบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ช่วยกันประชาสัมพันธ์โครงการฯ ให้กับประชาชนในพื้นที่ทราบมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนโครงการฯ ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด” รองเลขาธิการ สปสช.กล่าว
ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า สถานการณ์การขับเคลื่อนนโยบายยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว จ.เพชรบูรณ์ มีข้อมูลสะสมระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2567 มีหน่วยบริการประกอบด้วย โรงพยาบาล, รพ.สต. และหน่วยนวัตกรรม เข้าร่วมโครงการยกระดับ 30 บาทฯ จำนวน 202 แห่ง ผู้รับบริการทั้งสิ้น 62,374 คน/ 86,420 ครั้ง คิดเป็นค่าเฉลี่ย 1,416.72 ครั้ง/วัน โดยสปสช.จ่ายชดเชยเป็นเงินทั้งสิ้น 12,404,703 บาท
สำหรับหน่วยนวัตกรรม 7 วิชาชีพ ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จำนวน 105 แห่ง (17.7%) จากสถานพยาบาลเอกชนขึ้นทะเบียน สพ.7 จำนวน 592 แห่ง ส่งข้อมูลการเบิกจ่ายกับ สปสช. แล้ว 66 แห่ง (63%) คิดเป็นการให้บริการแก่ประชาชน 26,086 คน/39,031 ครั้ง จ่ายชดเชยวงเงินทั้งสิ้น 8,339,700 บาท อย่างไรก็ตาม หน่วยนวัตกรรมที่มีการให้บริการและเบิกจ่ายสูงสุด ได้แก่ คลินิกเวชกรรม ให้บริการ 13,756 คน/20,479 ครั้ง เบิกจ่ายทั้งสิ้น 4,227,225 บาท รองลงมาได้แก่ คลินิกการพยาบาลและผดุงครรภ์ ให้บริการ 9,558 คน/14,220 ครั้ง เบิกจ่าย 2,507,665 บาท
สำหรับคลินิกเวชกรรมนายแพทย์รัฐกร ให้บริการ 395 คน/686 ครั้ง เบิกจ่ายทั้งสิ้น 219,080 บาท
เพชปุระคลินิกการแพทย์แผนไทย ให้บริการ 111 คน/281 ครั้ง เบิกจ่ายทั้งสิ้น 56,200 บาท ขณะที่หน่วยนวัตกรรมเบิกจ่ายน้อยที่สุด ได้แก่ คลินิกเทคนิคการแพทย์, คลินิกกายภาพบำบัด เนื่องจากการจัดบริการทั้ง 2 แห่ง ขึ้นกับแม่ข่ายในการส่งต่อ แนวทางแก้ไข สปสช.เขต 2 พิษณุโลก จะได้ประสานจัดเครือข่ายบริการ โดยให้โรงพยาบาลเป็นแม่ข่ายในการส่งต่อผู้ป่วยมารับบริการที่คลินิกฯ ต่อไป
ด้าน นพ.รัฐกร เพิ่มสุวรรณ ผู้บริหารคลินิกเวชกรรมนายแพทย์รัฐกร ซึ่งรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน กล่าวว่า การที่เข้าร่วมโครงการคลินกเวชกรรมชุมชนอบอุ่นกับสปสช.เพราะต้องการเห็นประชาชนในพื้นที่มีสุขภาพที่ดีขึ้น สามารถเข้าถึงบริการสะดวก รวดเร็ว และได้การรักษาตามมาตรฐาน ซึ่งคลินิกนี้เปิดมาได้4ปีแล้วก่อนที่จะเข้าร่วมโครงการกับสปสช. มีผู้ป่วยมาใช้บริการเฉลี่ยต่อวันสูงสุด 200 คน และพอเริ่มเข้าโครงการบัตร30 บาท เริ่มมีผู้ป่วยใช้สิทธิ์เข้ารับบริการมากขึ้นเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 10-20 คนต่อวัน คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก 5-10 คนต่อวัน ส่วนใหญ่พูดกันปากต่อปาก สำหรับปัญหาอุปสรรคก็มีบ้าง เรื่องดารเบิกจ่ายบ้างcase แต่ส่วนใหญ่ไมาเกิน3วัน ถามว่าคลินิกมีกำไรมั้ยโดยไม่เน้นกำไร แต่เน้นทำให้ครอบครัวคนไข้ สิ่งแวดล้อมเพชรบูรณ์ดีขึ้น ลดความแออัดของ รพ.อีกด้วย
ด้านแพทย์แผนไทย(พท.) ขกฤตยชญ์ แจ่มศรี หมอหมอก ผู้บริหารและเจ้าของเพชปุระคลินิกการแพทย์แผนไทย โดยมี พท.สัญญา ปัญญา แพทย์แผนไทย สรุปภาพรวมของการดำเนินการในคลินิก เล่าว่า เพชรปุระคลินิกแพทย์แผนไทย เข้าร่วมโครงการคลิกนิกการแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น ของสปสช. ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาให้บริการด้านหัตถการ การนวดรักษาแก้ตามอาการเป็นหลัก เฉลี่ยคนไข้ที่มาใช้สิทธิ์บริการเฉลี่ยต่อวันไม่เกิน 10 ราย และยังมีคนไข้ที่ยังมารักษาต่อเนื่องอีก 20 ราย ส่วนปัญหาอุปสรรคจากการเข้าร่วมมีบ้างในเรื่องการเบิกจ่ายแต่ก็ไม่เป็นปัญหา