
ทพ.อรรถพร รองเลขาฯสปสช. เยี่ยมชมศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง อบต.บางแก้ว จ.ระนอง หนุนเสริมช่วยให้ประชาชนให้เข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม และเป็นแห่งแรกของจังหวัดที่ดำเนินงานโดย อปท.
สปสช. ชื่นชมศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง อบต.บางแก้ว จังหวัดระนอง ที่ช่วยให้ประชาชนให้เข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม และเป็นจังหวัดแรกที่ดำเนินงานโดย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ใช้กลไกกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน สร้างความเข้าใจสิทธิประโยชน์บัตรทองให้ประชาชนในพื้นที่ เป็นต้นแบบให้กับท้องถิ่นอื่นๆ หวังเป็นตัวอย่างขยายผลให้ท้องถิ่นอื่นๆ ร่วมขับเคลื่อนงานคุ้มครองสิทธิบัตรทองในอนาคต
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสปสช พร้อมด้วย คณะสปสช.เขต 11 สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่รับฟังการขับเคลื่อนงานและการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่(กองทนสุขภาพตำบล) บางแก้ว จ.ระนอง และเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง อบต.บางแก้ว ซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพ(สิทธิบัตรทอง)เพื่อคุ้มครองสิทธิประชาชนและรับเรื่องร้องเรียน ที่ดำเนินงานโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แห่งแรกของ จ. ระนอง โดยมี นายเจษฎา ชูชาติ นายกอบต.บางแก้ว และทีมงานในพื้นที่ต้อนรับคณะฯ
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า อบต.บางแก้ว ได้สมัครเข้าร่วมดำเนินงานเป็นศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองในปี 2566 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลบางแก้ว ร่วมกับ สอบต./อสม./อพม./ผู้นำชุมชน เป็นเครือข่ายพื้นที่อบต.บางแก้ว ซึ่งได้ทำงานร่วมกันในพื้นที่อยู่แล้ว และได้สมัครเข้าร่วมเป็นศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองในนามของ อบต.บางแก้ว มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับอำเภอ ดูแลคุ้มครองสิทธิ รับเรื่องร้องทุกข์ เจรจาไกล่เกลี่ยตลอดจนดูแลด้านสาธารณสุขแก่ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและต้องการดูแลระยะยาว
รองเลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง มักจะดำเนินการโดยองค์กรภาคประชาชน มีทีมงานที่มาจากผู้นำชุมชนหรือจิตอาสา แต่ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง อบต.บางแก้ว มีความพิเศษตรงที่เป็นศูนย์ที่ดำเนินงานโดยท้องถิ่น มีสำนักงานตั้งอยู่ในที่ทำการ อบต. มีนายก อบต. และเจ้าหน้าที่ร่วมเป็นทีมรับเรื่องร้องเรียนและทีมไกล่เกลี่ย มีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่หน่วยงานต่างๆในพื้นที่ เพื่อให้ทราบถึงบทบาทหน้าที่ของศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง
“ต้องขอบคุณ อบต.บางแก้ว และเครือข่ายในพื้นที่ ที่ให้ความสำคัญและขับเคลื่อนกับเรื่องนี้อย่างเต็มตัว สปสช.เราอยากเห็นภาพแบบนี้เกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ มากขึ้น เพราะ อบต./เทศบาล เป็นหน่วยงานที่ดูแลในพื้นที่อยู่แล้ว หากมาร่วมขับเคลื่อนขยายผลศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง จะทำให้ อบต./เทศบาล สามารถดูแลประชาชนได้รอบด้านมากขึ้น และประชาชนเองก็จะเข้าถึงบริการของศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองได้มากขึ้นด้วย”ทพ.อรรถพร กล่าว”
ด้านนายเจษฎา กล่าวว่า อบต.บางแก้ว เป็นศูนย์กลางในการกระจายข้อมูลและการลงพื้นที่ประสานงาน แบบ One stop service และเป็นเครือข่ายสปสช.เขต 11 สุราษฎร์ธานี เพื่อคุ้มครองสิทธิให้ประชาชนในพื้นที่ เกิดจากการให้ความสำคัญด้านสุขภาพ ให้ประชาชนรับรู้สิทธิ เข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพของประชาชนและพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยเน้นการบริการเชิงรุก มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพและแก้ปัญหาได้จริง ในพื้นที่ เมื่อมีปัญหาสามารถแจ้งปัญหาผ่านสมาชิก อบต. ผู้นำชุมชนได้
อย่างไรก็ตาม มีประชาชนให้ความสนใจสอบถามและปรึกษาด้านการใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การสอบถามถึงความครอบคลุมในการรักษาของสิทธิบัตรทองต่อโรคที่เป็น กระบวนการขั้นตอนในการเข้ารับบริการอย่างไร การโอนย้ายสิทธิการรักษา ไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า ระบบการดูแลฉุกเฉินบริการรับส่งตัวเพื่อรับการรักษา และการดูแลพบแพทย์ตามนัดในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะพึงพิงยากไร้
“ในพื้นที่ตำบลบางแก้ว ซึ่ง อสม.เป็นกลไกสำคัญที่เข้ามาสนับสนุนการทำงานของศูนย์ฯ ซึ่งเป็นส่วนงานของท้องถิ่นด้วย มีการบูรณาการความร่วมมือในทำงานร่วมกัน แม้จะต่างสังกัด โดยบทบาทการทำงานของ อสม. ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการประชาสัมพันธ์ เนื่องจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล และไม่สะดวกเรื่องการเดินทาง สัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ดี” นายกอบต.บางแก้วกล่าว
นอกจากนี้แล้ว ศูนย์ฯ ยังมีการให้ข้อมูลข่าวสารสิทธิประโยชน์ อำนวยความสะดวกรับ-ส่ง ผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง ในการเข้ารับบริการ หรือผู้ที่มีความยากลำบากในการเดินทางไปรับการรักษาโรงพยาบาลระนองหรือโรงพยาบาลที่มีศักยภาพจังหวัดอื่น ๆ การสำรวจข้อมูลผู้ป่วยกลุ่มต่าง ๆ ผู้พิการ เพื่อประสานงานให้ได้รับการช่วยเหลือเข้าถึงการใช้ประโยชน์จากกองทุนที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงกองทุนฟื้นฟู อบจ.ระนอง ในการปรับสภาพบ้านให้มีความเหมาะสม การรับเรื่องร้องเรียน กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการเข้ารับบริการสาธารณสุข มาตรา 41 การประสานงานให้ผู้ป่วยได้เข้ารับบริการตามสิทธิจากกรณีเรื่องร้องเรียนการเรียกเก็บเงิน
“การทำงานเน้นการบูรณาการข้อมูล ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสุขภาพดี ลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือน ด้วยจากสภาพของพื้นที่ที่มีความหลากหลายของผู้คนและพื้นที่ค่อนข้างห่างไกล การเดินทางลำบากในการเข้ารับบริการ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และโรงพยาบาลละอุ่น และการรับรู้ข้อมูลข่าวสารในเรื่องข้อมูลสิทธิประโยชน์ของประชาชนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการสื่อสารและทบทวนข้อมูลความรู้ให้มากขึ้นทุกช่องทาง เช่น ผู้นำชุมชน แกนนำกลุ่มต่าง ๆ และช่องทางผ่านสื่อโซเชียล
ปัจจุบัน อบต.บางแก้ว อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง มีพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด 154.18 ตารางกิโลเมตร จำนวน 5 หมู่บ้าน และมีประชากรราว 3,256 คน โดยในจำนวนนี้ไม่รวมถึงประชากรแฝง (ประชากรเมียนมาร์) มีผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงทั้งหมด 9 ราย ” นายกอบต.บางแก้วกล่าว
นอกจากนี้แล้ว ทพ.อรรถพร ลงพื้นที่เปิดงานและเยี่ยมศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองและการมีส่วนร่วมของเครือข่ายนักปกครองท้องที่ โดยมีเครือข่ายภาคประชาชน ร่วมรับมอบนโยบายให้เครือข่ายภาคประชาชน ในศูนย์คุ้มครองสิทธิ์ด้วย.