สปสช.เขต 11 สุราษฎร์ธานี รุกติดโลโก้30บาทรักษาทุกที่ จ.นครศรีธรรมราช ระบุ มีคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และ คลินิกเทคนิคการแพทย์ ร่วมโครงการ30บาทรักษาทุกที่
หน่วยนวัตกรรม 7 วิชาชีพ พื้นที่ สปสช.เขต11 สุราษฎร์ธานี ตอบรับโครงการ30บาทรักษาทุกที่ เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง ช่วยผู้ป่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น
นพ.พลลภัตม์ เสถียร รักษาการ ผอ.สปสช.เขต11 สุราษฏร์ธานี พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่เยี่ยมชมการให้บริการของหน่วยนวัตกรรม พร้อมติดสติกเกอร์โลโก้30บาทรักษาทุกที่ ให้กับคลินิกที่เข้าร่วมโครงการ ใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีความตื่นตัวค่อนข้างสูง ที่ “กำแพงเซาคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์” โดยมีนางนงเยาว์ นวลล่อง พยาบาลคลินิก พาเยี่ยมชม ซึ่งในวันนี้ มีผู้มีสิทธิบัตรทองมาใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันหยุด ซึ่งคลินิกดังกล่าวตอบโจทย์ประชาชนอยู่ใกล้บ้านชุมชนชุมชน
นพ.พลลภัตม์ กล่าวว่า คลินิกดารพยาบาลฯ เข้าร่วมโครงการนี้มาตั้งแต่กลางปี รักษาโรคเบื้องต้น เจ็บป่วยเล็กน้อยใน10โรค 32กลุ่มอาการ และให้บริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ก็มีผู้ใช้สิทธิ์บัตรทอง ทั้งจากในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอใกล้เคียง จำนวนกว่า 1.4 หมื่นครั้งได้รับเงินชดเชยจาก สปสช.ไปแล้วกว่า 2.2 ล้านบาท
เช่นเดียวกับที่ “คลินิกเทคนิคการแพทย์ สิริ ณครแล็บ” ที่เพิ่งเข้าร่วมโครงการได้ 2 เดือน แต่ก็มีผู้ป่วยมาใช้บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการ OP LAB ใน22รายการ เฉลี่ยวันละ5-10คน และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังทำประสัมพันธ์เชิงรุกในทุกช่องทาง
นพ.พลลภัตม์ บอกว่า ในพื้นที่เขต 11 มีหน่วยนวัตกรรม 7 วิชาชีพ ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านยา คลินิกการพยาบาลฯ ทันตกรรม และเทคนิคการแพทย์ ที่กระจายตัวอยู่ในชุมชนต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้ป่วย ช่วยให้เข้าถึงการรักษาง่ายขึ้น สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปไกลไปรอคิวนานที่โรงพยาบาล และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย.
นางนงเยาว์ นวลล่อง พยาบาลคลินิกการพยาบาล กล่าวว่า มีประชาชนมาใช้บริการสิทธิ์บัตรทองทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ 20 คน ถึง 40 คนต่อวัน ที่มารับบริการภาพรวมทำแผล ฉีดยา เยี่ยมบ้าน ส่วนใหญ่จะมาทำแผลที่เป็นโรคเบาหวาน แผลที่เกิดจากอุบัติเหตุ แผลที่เกิดจากสุนัขกัด เป็นแผลที่เย็บจากโรงพยาบาล เป็นต้น ชาวบ้านส่วนใหญ่พึงพอใจหลังจากเปิดมาได้ประมาณหนึ่งปีสะดวกรวดเร็วไม่ต้องรอนานบางคนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเดินทางซึ่งต้องเหมารถไป เสียเวลาเป็นวันๆ เพื่อไปโรงพยาบาล เพราะระยะทางค่อนข้างไกลบางคนห่าง 30 กิโลเมตร
ด้าน นางสาว วราภรณ์ อักษรนำ ผู้บริหาร“คลินิกเทคนิคการแพทย์ สิริ ณครแล็บ”กล่าวว่า โครงการนี้ดีมากช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลและถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ให้กับผู้มีสิทธิ์บัตรทองและผู้ป่วยทั่วไป สะดวกรวดเร็วไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่ใช้สิทธิ์บัตรทอง อีกทั้ง ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่มีอายุ 50 ปี ถึง 70 ปี สามารถเข้ามาตรวจได้ที่คลินิกแห่งนี้เช่นกันและหญิงตั้งครรภ์ ก็สามารถมาตรวจได้ที่แล็บได้สี่ครั้งต่อปี เพื่อลดความเสี่ยง.