สปสช.เพิ่มสิทธิประโยชน์บัตรทองรากฟันเทียม ขณะที่นพ.สสจ.จ.สุราษฎร์ธานี ระบุปีนี้วางแผนเพิ่มการเข้าถึงบริการรากฟันเทียมในโครงการฟันเทียม รากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา
สปสช.เพิ่มสิทธิประโยชน์บัตรทองรากฟันเทียม ขณะที่นพ.สสจ.จ.สุราษฎร์ธานี ระบุปีนี้วางแผนเพิ่มการเข้าถึงบริการรากฟันเทียมในโครงการฟันเทียม รากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา เผยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้รับบริการไปแล้ว 93 ราย ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 72 ราย รณรงค์ผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันทั้งปาก รักษาฝังรากฟันเทียม แก้ปัญหาบดเคี้ยวอาหาร เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. นายธงชัย สิทธิยุโณ ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 11 สุราษฎร์ธานี และนพ.ดำรง ธำรงเลาหะพันธุ์ ผอ.สำนักทันตสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข นางไปยดา หาญชัยสุขสกุล รอง ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) และ นางนริศา มัณฑางกูร ผู้อำนวยการโปรแกรมบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์และหุ่นยนต์ทางการแพทย์ขั้นสูง ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) โดยมีนพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นพ.สสจ.สุราษฎร์ธานีและทีม ผู้บริหารรพ.สุราษฎร์ธานี พร้อมนักวิจัย จากคณะแพทยศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน รับฟังความคิดเห็น และเยี่ยมเสริมพลัง “โครงการนำร่องการใช้ผลิตภัณฑ์รากฟันเทียมในบัญชีนวัตกรรมไทย” สำหรับให้การรักษาฝังรากฟันเทียมแก่ผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ที่ไม่มีฟันทั้งช่องปาก ที่ดำเนินการโดย ทีมนักวิจัยคณะแพทย์ศิริราชฯ
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สปสช. กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กรมการแพทย์ มูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ หน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อดูแลคนไทยทุกคนที่ไม่มีฟันบดเคี้ยวอาหาร เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี ให้บริการใส่ฟันเทียมถอดได้แบบทั้งปากหรือเกือบทั้งปากสำหรับทุกสิทธิการรักษา โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี คือ ปี 2566-2567 โครงการดังกล่าวนี้ มีเป้าหมาย คือ 1. ให้คนไทยได้รับบริการใส่ฟันเทียมทั้งปาก ใน 76 จังหวัด จำนวน 72,000 ราย 2. ให้ผู้ที่ไม่มีฟันทั้งช่องปากได้รับบริการฝังรากฟันเทียมเพื่อรองรับฟันเทียมทั้งปากตามความจำเป็นใน 76 จังหวัด จำนวน 7,200 ราย
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า รากฟันเทียมที่ใช้ในการรักษาผ่านระบบบัตรทองภายใต้โครงการนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากฝีมือของบริษัทไทย ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีนวัตกรรมไทย ทำให้มั่นใจได้ว่ามีคุณภาพ เพราะต้องผ่านการพิสูจน์จากทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รวมถึงมีราคาที่ไม่แพง ผลิตภัณฑ์รากฟันเทียมที่นำมาให้บริการ เป็นรุ่น PRK ที่พัฒนาขึ้นโดยมูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ และผลิตโดยบริษัท มหาสวัสดิ์เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเริ่มนำมาให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นมา ซึ่งในปี 2566 นี้ มีกลุ่มเป้าหมายการให้บริการ 3,500 ราย และปี 2567 อีกจำนวน 3,700 ราย
“สปสช. ได้เพิ่มเป็นสิทธิประโยชน์รากฟันเทียมให้กับคนสิทธิบัตรทอง เมื่อช่วงปี 2564 ทำให้ทางโรงพยาบาลสามารถเบิกจ่ายค่าบริการได้ ซึ่งเบื้องต้นโครงการนี้จะให้บริการเฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทองก่อน เพื่อจัดระบบบริการทั้งบุคลากรและเครื่องมือก่อนจะขยายผลต่อไปในอนาคต”
นพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นพ.สสจ. สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการคัดกรองในพื้นที่ มีผู้สูงอายุราว 2 แสนคน ในจำนวนนี้ เกือบครึ่งมีปัญหาช่องปากและฟัน ปีนี้มีการวางแผนเพิ่มการเข้าถึงบริการรากฟันเทียมในโครงการฟันเทียม รากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา ได้มากขึ้น ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้รับบริการไปแล้ว 93 ราย ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 72 ราย และคาดว่าในปีงบประมาณนี้ จะมีผู้เข้ารับบริการรากฟันเทียมกว่า 100 ราย ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้มากขนาดนี้ เกิดจากการคัดกรองผู้สูงอายุทั้งจังหวัด สอดคล้องกับการขับเคลื่อนวาระสุขภาพผู้สูงอายุของจังหวัด ทำให้ได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน รวมถึง สปสช. ที่เป็นกำลังสำคัญเข้ามาช่วยสนับสนุนรากฟันเทียมจากบัญชีนวัตกรรมไทย
ด้านนายเตชะวิทย์ ชื่นจับจิตร์ อายุ54 ปี อาชีพรับจ้างทำสีรถยนต์ ผู้ป่วยที่รับ การฝังรากฟันเทียมฯดีใจ ตรมีปัญหาเรื่องฟันมาตั้งแต่เด็กและเริ่มใส่ฟันปลอมทั้งปากตอนอายุได้30 ปี พอดีทราบจากแม่ตนว่าเขามีโครงการทำรากฟันเทียมเลยเข้ามารักษา โดยตนเริ่มมาทำรากฟีนเทียมเมื่อปี2566 ซึ่งมันแน่นกว่าใส่ฟันปลอมธรรมดา อยากบอกว่าดีมากเลยกินอาหารอร่อย อยากขอบคุณสปสช.และรพ.สุราษฎร์ธานีที่มีโครงการดีๆแบบนี้ให้ชาวบ้านได้มีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะตนมารักษาไม่เสียเงินเลยเพราะทราบว่ามีหน่วยงานรัฐออกให้